ตัวช่วยที่จะสามารถผ่อนแรงคุณแม่เวลาให้นมบุตรได้ คือ เครื่องปั๊มนม เพราะว่าบางทีคุณแม่อาจมีงานยุ่งมากในแต่ละวันจึงจะต้องมีการปั๊มนมใส่ขวดเตรียมให้ลูกน้อยเวลาว่างๆ หรือในบางกรณีจะมีปัญหาที่ลูกไม่ยอมดื่มนมจากอกแม่ และปัญหาคุณแม่มีน้ำนมน้อย ที่ปั๊มนมก็จะสามารถปั๊มนมจากอกแม่เตรียมไว้ได้ตลอดเวลาหากคุณแม่มีเวลาว่างไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือออกไปข้างนอกก็ตาม
ทำไมคุณแม่ต้องปั๊มนม?
- ถ้าคุณแม่ปั๊มนมเตรียมไว้แล้ว คนอื่นก็จะสามารถให้นมลูกแทนได้ ทำให้มีเวลาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมอื่นๆได้มากขึ้น
- หากคุณพ่อให้นมที่คุณแม่ปั๊มเตรียมไว้แก่ลูกน้อย ก็จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อกับลูกมากขึ้น
- กระตุ้นให้แม่มีการผลิตน้ำนมที่มากยิ่งขึ้น
- สามารถสำรองน้ำนมไว้ให้ลูกกรณีที่แม่ให้นมจากเต้าโดยตรงไม่ได้
- ในกรณีที่คุณแม่รับการรักษาร่างกายโดยการทานยา ทำให้น้ำนมปนเปื้อนส่งผลต่อคุณภาพของน้ำนม การเก็บสำรองน้ำนมไว้ก่อนหน้านั้นก็ช่วยให้ลูกน้อยได้ดื่มนมที่มีคุณภาพและความปลอดภัย
เครื่องปั๊มนม มีกี่แบบ
สำหรับที่ปั๊มนมจะมีด้วยกัน 3 แบบดังนี้
-
ที่ปั๊มนม แบบปั๊มมือ
- ราคาไม่แพง สามารถที่จะปั๊มนมได้ทีละข้าง
- เป็นการใช้แรงมือในการบีบปั๊มนมโดยตรง สามารถที่จะควบคุมแรงในการปั๊มนมได้ด้วยตัวของคุณแม่เอง
- ทำให้เมื่อยมือ เพราะจะต้องออกแรงบีบพอสมควรในการปั๊มนม
- น้ำนมของคุณแม่ไม่สามารถระบายออกได้อย่างเต็มที่
- ไม่มีเสียงดังรบกวน
-
ที่ปั๊มนมแบบใช้แบตเตอรี่
- ราคาแพงกว่าแบบปั๊มด้วยมือ
- การทำงานจะเป็นแบบอัตโนมัติ สะดวกสบายไม่ต้องออกแรงมือบีบให้เมื่อย
- สามารถปรับระดับความแรงขณะที่มีการใช้ที่ปั๊มนมได้
- ขณะที่ใช้งานปั๊มนมข้างหนึ่ง อีกข้างสามารถที่จะให้นมลูกน้อยได้
- ขณะใช้งานจะมีเสียงค่อนข้างดัง
-
ที่ปั๊มนมแบบใช้ไฟฟ้า
- ราคาแพง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะมีความคงทน สามารถใช้ได้ยาวนาน
- การทำงานเป็นแบบอัตโนมัติ สะดวก ไม่ต้องเมื่อยมือ
- การทำงานจะใช้กำลังไฟฟ้าขณะที่ปั๊มนมคุณแม่
- มีทั้งแบบปั๊มเดี่ยวหรือปั๊มนมได้ทีละข้าง และแบบปั๊มคู่หรือปั๊มนมได้พร้อมกันทั้งสองข้าง
- สามารถปรับแรงบีบได้ตามต้องการ และมีหลากหลายโหมดให้คุณแม่ได้เลือกใช้งาน เช่น โหมดช่วยกระตุ้นน้ำนม โหมดปั๊มนม เป็นต้น
- มีการพัฒนาฟังชั่นการใช้งานต่างๆทำให้สะดวกสบายมากขึ้น เช่น ตั้งเวลาในการปั๊มนมได้ เมื่อถึงเวลาปั๊มจะมีเสียงเตือน ฯลฯ
- มีหลากหลายขนาดให้เลือกสามารถพกพาได้สะดวก
หลังจากปั๊มนมเสร็จแล้วควรมีการเก็บรักษาอย่างไร
สามารถเก็บน้ำนมแม่ไว้ได้ที่ขวดพลาสติก ขวดแก้ว หรือจะเป็นถุงที่ปลอดสาร BPA ต้องนำไปแช่เย็นจะช่วยให้เก็บรักษาได้นานขึ้น ซึ่งต่อ 1 บรรจุภัณฑ์นั้นควรจะมีปริมาณน้ำนมอยู่ที่ 60-120 มิลลิลิตร
อุณหภูมิที่แตกต่างกันส่งผลต่อระยะเวลาในการเก็บรักษาน้ำนมดังนี้
- ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส สามารถเก็บน้ำนมได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมง
- กระเป๋าที่สามารถเก็บรักษาความเย็นที่มีถุงน้ำแข็ง เก็บน้ำนมได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
- ตู้เย็นในช่องปกติ เก็บได้ 3-8 วัน
- ตู้เย็นช่องแช่แข็ง สามารถเก็บรักษาได้ไม่เกิน 6 เดือน
การเก็บรักษาน้ำนมแม่ในช่องแช่แข็งจะทำให้สารภูมิคุ้มกันลดลง แต่ก็สามารถดื่มได้ตามปกติเพราะยังคงมีสารอาหารที่จำเป็นอยู่
มีข้อควรระวัง คือ หากนมมีกลิ่นเหม็น หรือกลิ่นที่ผิดปกติไปก็ควรที่จะทิ้งไม่ควรให้ลูกน้อยของคุณดื่ม
นมแม่มีความจำเป็นอย่างมากต่อทารกแรกเกิดจนถึงเด็กอายุ 3 ปี เพราะว่าจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางสมอง สามารถเสริมภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่กับลูก แต่หากคุณแม่ไม่มีเวลาให้นมลูกบ่อยๆ ก็อาจจะต้องใช้เครื่องปั๊มนมที่สามารถสำรองน้ำนมไว้ให้ลูกระหว่างวันได้