รู้ทัน มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก อาการของโรคและการรักษา

121

โรคมะเร็งในเพศหญิงที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้นๆคือ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ดังนั้นหากเรามีความรู้ในโรคนี้ก็จะเป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ถ้าเรารู้ทัน รู้อาการของโรค ก็จะสามารถวินิจฉัยด้วยตัวเองในเบื้องต้นว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ ถ้ามีอาการบ่งบอกว่ามีความเสี่ยงจะได้นำไปสู่การรักษาได้อย่างทันท่วงที

มดลูกคืออะไร

มดลูกนั้นเป็นอวัยวะที่มีความแข็งแรงมากเป็นพิเศษ มีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อสามชั้นเรียงทับกัน มีลักษณะคล้ายลูกแพร์หรือลูกชมพู่คว่ำเชื่อมต่ออยู่ที่ด้านบนช่องคลอด จะมีทางแยกอยู่ด้วยกัน 3 ช่อง คือ ช่องที่ไปทางช่องคลอด และช่องซ้ายขวาที่แยกตรงกันซึ่งก็คือปีกมดลูกนั่นเอง

เยื่อบุโพรงมดลูกคืออะไร

เยื่อบุโพรงมดลูก คือ เยื่อบุผิวซึ่งอยู่ในส่วนของผนังด้านในมดลูก ทำหน้าที่รับการฝังตัวของตัวอ่อนทารก หากในเดือนนั้นๆไม่มีการตั้งครรภ์เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะออกมาเป็นประจำเดือนนั่นเอง

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกคืออะไร

มันคือเนื้องอกร้ายที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับหญิงวัยเจริญพันธุ์และหญิงวัยหมดประจำเดือน โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะได้รับการวินิจฉัยเมื่อมีอายุ 40-70 ปี ซึ่งก็เป็นวัยที่ได้หมดประจำเดือนไปแล้ว

สาเหตุการเกิดโรค

สาเหตุของโรคนี้ยังไม่เป็นที่ทราบกันแน่ชัด แต่มีข้อมูลพบว่าเมื่อระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนในเลือดที่สูงเป็นเวลานานเป็นปัจจัยอันดับต้นๆที่สำคัญทำให้สามารถเป็นโรคนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆอีก เช่น การใช้ยาบางชนิด ความอ้วนซึ่งทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้น พันธุกรรม เป็นต้น

พบบ่อยแค่ไหน

ในปัจจุบันโรคนี้สามารถพบได้มากขึ้น โดยในส่วนของประเทศไทยพบได้เป็นอันดับ 3 ของมะเร็งเพศหญิง โดยใน 1 ปี จะพบผู้ป่วยโดยเฉลี่ย 3 ราย ต่อประชากร 100,000 คน

อาการของโรค

อาการที่บ่งบอกว่ามีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ คือ มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ แต่จะไม่ใช่การเป็นประจำเดือน หรือหากว่าเป็นประจำเดือนก็จะมามากหรือนานผิดปกติ และหากเป็นหญิงวัยหมดประจำเดือนก็จะมีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด หากมีเพศสัมพันธ์ก็จะปวดท้องบริเวณช่วงล่างหรือบริเวณเชิงกราน มีของเหลวคล้ายน้ำข้าวปนเลือดออกมาทางช่องคลอด มีกลิ่นเหม็น หากคุณมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที

การรักษา

การรักษาหากยังเป็นไม่มาก คือเพียงแค่มีมะเร็งที่เยื่อบุโพรงมดลูกไม่ได้ลุกลามไปที่อื่น การผ่าตัดก็เพียงพอที่จะสามารถกำจัดเชื้อมะเร็งได้ แต่หากมะเร็งมีการลุกลามมากขึ้นแพทย์ก็จะพิจารณาฉายแสง หรือใช้เคมีบำบัดเป็นรายไป

การป้องกัน

ยังไม่มีการป้องกันโรคมะเร็งชนิดนี้ได้อย่างแน่ชัด แต่ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงควรหมั่นดูแลตัวเองให้ดี เช่น คนอ้วนก็ต้องคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ กินอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย ส่วนผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนหากมีเลือดออกผิดปกติก็ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

หากคุณมีความเสี่ยงหรืออาการที่บ่งบอกว่าอาจเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ก็ควรที่ไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด หากตรวจเจอก็ควรปรึกษาแพทย์ถึงแนวทางการรักษา และดูแลตนเองตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้การรักษานั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด