บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ประวัติ ความรู้เกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

69

เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากแป้งข้าวสาลี เป็นอาหารที่ให้โปรตีนในปริมาณที่สูง ถูกแต่งด้วย สี กลิ่น และรส ด้วยเครื่องปรุง และน้ำมันปรุงรสในอัตราส่วนที่พอเหมาะ บรรจุอยู่ภายในซองขนาดพอรับประทาน เครื่องปรุงแต่งกลิ่นรส คือการนำเอาวัตถุที่ใช้ในการปรุงแต่งรสชาติ ด้วย ซุปแห้ง หรือโปรตีนเข้มข้น

ประวัติบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกโดยชายที่ชื่อว่า โมะโมะฟุกุ อันโด โดยพื้นเพแล้วเกิดที่ประเทศใต้หวัน แต่มาเติบโตที่ประเทศญี่ปุ่น และที่ญี่ปุ่นนี่เองที่ทำให้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของธุรกิจ ตลอดช่วงเวลาที่เติบโตก็เจอกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย ถึงขนาดที่ถึงขั้นติดคุก แต่จุดพลิกพันก็เกิดขึ้น เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2

หลังจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นที่ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของสงครามครั้งนี้ ก็เกิดภาวะขาดแคลนอาหารขึ้นมา รัฐบาลจึงรณรงค์ให้ชาวญี่ปุ่นหันมากินขนมปังแทน ซึ่งเป็นอาหารที่ทำมาจากข้าวสาลี เพราะเหตุนี้จึงทำให้ นายโมะโมะฟุกุ อันโด เกิดความสงสัยว่า ทำไมต้องแนะนำให้ทานขนมปังแทนที่จะเป็นบะหมี่ ซึ่งถือว่าเป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นมีความคุ้นเคยมากกว่า โดยเหตุผลที่รัฐบาลชี้แจงเรื่องนี้ก็เพราะว่า รัฐบาลเห็นว่าบริษัทที่ทำบะหมี่มีขนาดเล็กเกินไปและยังขาดเสถียรภาพ จึงกลัวว่าการผลิตต่อวันจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของจำนวนประชาชนที่กำลังหิวอยู่ในแต่ละวัน นายโมะโมะฟุกุจึงตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ โดยเขาตั้งใจที่จะพัฒนาการผลิตเส้นบะหมี่ด้วยตัวเอง เพราะเขาเชื่อว่า “สันติภาพจะมาสู่โลกเมื่อผู้คนมีอาหารพอกิน”

จากที่ได้ที่ลองผิดลองถูกอยู่หลายเดือน ในที่สุดเขาก็ได้พัฒนากระบวนการผลิตเส้นบะหมี่ได้สำเร็จ โดยเป็นการนำเอามาผสมผสานกันระหว่าง เส้นบะหมี่ผสมกับน้ำซุบไก่แล้วเอาไปทอด หลังจากนั้นเอามาเข้ากระบวนการ อบแห้ง นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เขามีความแตกต่างจากคนอื่น เพราะวิธีที่เขาคิดค้นขึ้นมาจะทำให้สามารถเก็บรักษาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไว้ได้นาน โดยวิธีรับประทานก็เพียงนำเอามาเติมน้ำร้อน ก็สามารถรับประทานเพื่อให้อิ่มได้อย่างง่ายดาย

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกวางจำหน่ายครั้งแรกในโลก วันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1958 โดยที่ในตอนนั้นได้ใช้เครื่องหมายการค้าว่า “Chikin Ramen” (ชิกิ้ง ราเมง) หรือ บะหมี่รสไก่ Chichen Ramen ซึ่งถือว่าเป็นบะหมี่ที่มีความหรูหรามากที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ โดยราคาในตอนนั้นถูกจำหน่ายออกมาด้วยราคา 35 เยน ซึ่งถือว่าเป็นบะหมี่ที่มีราคาแพงเป็นอย่างมาก เพราะราคาแพงกว่าบะหมี่อูด้งและโซบะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นถึง 6 เท่า

สำหรับประเทศไทย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกรู้จัก และซึมซับด้วยยี่ห้อ มาม่า โดยการผลิตครั้งแรกภายในประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2515 ผลิตโดยบริษัทไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ โดยเหตุผลที่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า มาม่า ก็เพราะเป็นชื่อที่จำง่าย แถมยังมีความหมายที่ลึกซึ่ง เพราะหมายถึง แม่ โดยรสชาติที่ขายดีที่สุดในปัจจุบันก็ประกอบไปด้วย ต้มยำกุ้ง หมูสับ ต้มยำกุ้งน้ำข้น ซึ่งถ้าหากให้เปรียบเทียบแล้ว มาม่าถือเป็นน้องใหม่ที่เกิดเป็นอันดับ 3 โดยเปิดไล่เลี่ยกันกับ ไวไว และซันวา และจากการเปิดข้อมูลตัวเลขของฐานการผลิต ได้บอกไว้ว่า บริษัทไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ สามารถผลิตมาม่าได้สูงสุดต่อวันที่มากถึง 7,000,000 ซอง ซึ่งตัวเลขนี้ก็สามารถบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า มาม่า ยังคงเป็นอาหารยอดนิยมเสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุค กี่สมัยแล้วก็ตาม